โครงการจัดการน้ำเพื่อชุมชนชนบท
เป็นโครงการที่สมาคมฯ ดำเนินการในพื้นที่ชุมชนชนบทที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และน้ำเพื่อการเกษตร โดยดำเนินกิจกรรมหลากหลายตามสภาพปัญหา ความต้องการ ความจำเป็น และความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เช่น การสร้างภาชนะเก็บกักน้ำ การวางระบบประปา การฟื้นฟูระบบระบบประปาที่ถูกทิ้งร้าง และการใช้ระบบประปาแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือก เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำให้แก่ชุมชนในชนบท พร้อมทั้งการสร้างองค์ความรู้ในการบริการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนชนบท
สมาคมฯ ได้เริ่มดำเนินงานโครงการในด้านนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2523 อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ได้ส่งเสริมการจัดสร้างระบบน้ำต่างๆ ให้กับชุมชนในชนบทไปแล้ว ดังนี้ ถังเก็บน้ำฝน 20,006 ถัง ระบบประปาหมู่บ้าน 212 หมู่บ้าน ระบบบาดาลลอยฟ้า (ธนาคารผัก) 173 ระบบ โอ่งน้ำ 19,889 ใบ ฝายน้ำล้น 22 แห่ง บ่อบาดาล 668 บ่อ สระปูพลาสติก 5 สระ และระบบสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์ 13 ระบบ

คุณจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร
เราขอรับรองว่าการบริจาคของคุณจะนำไปสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมพัฒนาและชุมชนโดยตรง




การนำน้ำไปสู่ชุมชนในชนบท
ผู้ใหญ่บ้านหญิงสุดแกร่งจากบ้านโนนข่า
นางลักษณี ฐิติโชติรัตนา เล่าว่า เมื่อก่อนบ้านโนนข่าแล้งมากจนเกิดไฟป่าอยู่บ่อยๆ ชาวบ้าน ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ จนต้องจำใจละทิ้งบ้านเกิดไปหางานทำในพื้นที่อื่น ตนจึงพยายามติดต่อกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อของบประมาณในการพัฒนาระบบประปาชุมชนอยู่หลายครั้ง
จนเมื่อปี พ.ศ.2557 สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ได้ร่วมกับมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ภายใต้โครงการ “รักน้ำ” ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือวางระบบประปาแสงอาทิตย์เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำให้แก่ชุมชนบ้านโนนข่า รวมถึงผนึกกำลังในการสร้างองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ทำให้บ้านโนนข่าที่ในอดีตมีแต่ความแห้งแล้ง และขาดความกลมเกลียว ได้พัฒนาสู่ชุมชนตัวอย่างด้านความยั่งยืน มีน้ำสะอาดไว้ใช้อุปโภคบริโภคและการเกษตร มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 2,500 บาท หนี้สินลดลง และยังประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกเดือนละ 3,000 บาท ชาวบ้านเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตรและร่วมกันพัฒนาพื้นที่ ที่เคยรกร้างให้เป็น “ครัวชุมชน”